ในบรรดาสมุนไพรทั้งหลายที่มีอยู่นั้น กระเทียม ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งเลยทีเดียว
ซึ่งก็ไม่เพียงแต่เฉพาะในบ้านเราเท่านั้น ในหลายๆ ประเทศกระเทียมได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ หรือการเยียวยารักษา มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว
กระเทียมไม่เพียงแต่ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรชั้นยอดเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเครื่องเทศที่มีความสำคัญ ในการประกอบอาหารหลายๆ ชนิดอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นอาหารทอด ผัด ต้ม หรือเป็นเครื่องเคียงของอาหารต่างๆ อีกมากมาย
เรียกได้ว่า อาหารหลายเมนู ถ้าขาดกระเทียมไป ก็เท่ากับขาดความหอมและความอร่อยไปได้เลยเชียวค่ะ
ด้วยความที่เราคุ้นเคย กินและอยู่กับกระเทียมทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ ทำให้ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ
แต่จริงๆ แล้ว กระเทียมมีประโยชน์มากกว่าจะเป็นแค่เครื่องปรุงอาหารอีกเยอะเชียวค่ะ มาดูกันเลย
ประโยชน์หรือสรรพคุณของกระเทียมต่อสุขภาพ
กระเทียมมีสารพิเศษชนิดหนึ่งที่ชื่อ Allicin ซึ่งเจ้าสารตัวนี้แหละ ที่มีประโยชน์มากมายมหาศาลต่อสุขภาพของเรา จนมีการนำไปสกัดเป็นผงและแคปซูล เพื่อใช้ในการบำรุงร่างกาย และรักษาโรคหลายโรค เช่น
? กระเทียมช่วยลดไขมัน คลอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเส้นเลือด จึงมีส่วนช่วยในการลดเบาหวาน ลดความอ้วน หรือควบคุมน้ำหนักได้
? ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย
? ช่วยยับยั้งเชื้อโรคต่างๆ เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยลดการอักเสบ การติดเชื้อ รักษาโรคกลากเกลื้อน และอาการต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ได้ รวมทั้งรังแคที่เกิดจากเชื้อราด้วย
? ช่วยลดความดันโลหิต ใครที่ความดันสูง แนะนำให้นำกระเทียมสดๆ มาทุบ แล้วรับประทานทันที วันละ 5-6 กลีบ วิธีนี้อาจจะไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ได้ผลชะงัดแบบวันต่อวันเชียวค่ะ
? ช่วยป้องกันความเสี่ยงของโรคโลหิตจาง
? ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกในร่างกาย
? ลดความเสี่ยงและป้องกันการเป็นโรคมะเร็ง
? ช่วยในการป้องกันการเกิดภาวะโรคเส้นเลือดอุดตัน และช่วยสลายลิ่มเลือดได้
? ช่วยป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ หรืออาการผิดปกติของหัวใจหลากหลายอาการ
? ช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยโรคหอบหืด
? ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ตามข้อหรือกระดูก
? มีฤทธิ์ที่สามารถขับพยาธิต่างๆ ได้หลายชนิด เช่น พยาธิเส้นด้าย พยาธิเข็มหมุด พยาธิแส้ม้า
? ช่วยทำให้ระบบสืบพันธุ์แข็งแรง โดยเฉพาะคุณผู้ชาย กระเทียมสามารถเพิ่มสมรรถภาพได้ และก็รวมไปถึงคุณผู้หญิงด้วย
? ช่วยในการย่อยอาหาร
? สามารถขับปัสสาวะได้
? ช่วยป้องกันหรือลดอาการไข้หวัดได้ เช่น น้ำมูกไหล อาการไอ
? ช่วยในการขับสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย
? ช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยด้วยโรคไซนัส
? ช่วยกำจัดกลิ่นเท้า โดยการเอากระเทียมมาสับจนละเอียด แล้วใส่ลงไปในน้ำอุ่น จากนั้น ก็นำมาแช่เท้าประมาณ 15-20 นาที
อย่างไรก็ดี การจะรับประทานกระเทียมให้ได้ประโยชน์ที่สุดนั้น
ควรจะรับประทานแบบสดๆ ด้วยการนำมาบด ทุบ หั่น สับ (หรือเคี้ยว) ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากทำการทุบ
เพราะสารสำคัญ (allicin) ที่มีฤทธิ์ในการรักษาที่อยู่ในกระเทียม จะอยู่เพียงแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากผ่านการทุบ หรือบดแล้วนั่นเองค่ะ
แต่ถ้าใครที่ทนรับประทานสดๆ ดิบๆ ไม่ไหวจริงๆ
ก็สามารถใช้วิธีหั่น สับ หรือบด แล้วนำไปปรุงผสมกับอาหารอื่นๆ และรับประทานตามปกติได้เช่นกัน
แม้จะไม่ได้ออกฤทธิ์เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือเต็มประสิทธิภาพเหมือนการรับประทานสดๆ แต่ก็ยังให้ประโยชน์อยู่ดี
และที่สำคัญก็คือ ไม่ควรรับประทานกระเทียม ในขณะที่ท้องยังว่างอยู่
เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง จากการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้
(อ่านเพิ่มเติม: ประโยชน์ของอัลมอนด์ ต่อสุขภาพ และการลดความอ้วน / ประโยชน์ของเมล็ดทานตะวัน / ประโยชน์และสรรพคุณที่น่าเหลือเชื่อ ของมันเทศ / ประโยชน์และสรรพคุณของเมล็ดแตงโม / ประโยชน์ของส้มโอ ต่อสุขภาพ และการลดความอ้วน / ประโยชน์ของพริกไทย ต่อสุขภาพ และการลดความอ้วน)