ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมาก หันมาให้ความสนใจในเรื่องของการดูแลสุขภาพ และการรักษารูปร่างกันมากขึ้น
ซึ่งหนึ่งตัวการสำคัญ ที่มักทำให้เกิดปัญหากับทั้งสุขภาพและรูปร่าง ก็มาจากการนิยมบริโภคอาหารที่รสหวานมากจนเกินไป
โดยเฉพาะน้ำตาลนั้น เรียกได้ว่าแทบจะถูกผสมรวมอยู่กับเกือบจะทุกเมนูเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวาน
แม้แต่เครื่องดื่มต่างๆ จนทำให้หลายคนมีอาการติดหวานโดยไม่รู้ตัว (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง : วิธีลดอาการติดของหวาน)
เมื่อเป็นแบบนี้ จึงมีการคิดค้นสารที่ช่วยให้ความหวานแทนน้ำตาล
ขึ้นมาทดแทนการใช้น้ำตาลจริงๆ ซึ่งสารเหล่านี้ จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า
มีความเหมาะสม และดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่?
สารที่มีรสหวานเหล่านี้ มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน
เช่น แอสปาแตม ซูคาโรส หรืออะเซซัลเฟม-เค แซ็กคาริน นีโอเทม เป็นต้น
ซึ่งสารเหล่านี้ ใช้ให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ จึงขึ้นอยู่กับผู้ผลิตสินค้า ว่าจะใช้สารแบบใดกับผลิตภัณฑ์ของตน
และเป็นทางเลือกกับผู้ที่กำลังลดความอ้วน หรือผู้ป่วยโรคเบาหวาน และโรคอื่นๆ
แม้จะยังมีข้อถกเกียงกันว่า จะช่วยได้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการหลอกร่างกายของตนเองเท่านั้น
แต่ผลเสียที่มีการตั้งข้อสังเกตจากการวิจัยในต่างประเทศ ก็มีอยู่บ้าง เช่น
ทำให้กลไกของระบบพันธุกรรมผิดปกติ
มีโอกาสในการเกิดโรคซึมเศร้า
หากพูดถึงเรื่องของการช่วยลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วนแล้ว ผลการการสำรวจกลับพบว่า สำหรับผู้ที่ทำการทดลองนั้น มีผลไม่แตกต่างอะไรกันมากนัก เมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานน้ำตาลตามปกติ
แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการที่เหมาะสม และดีต่อสุขภาพที่สุดคือ
ควรต้องลดอาการติดหวานให้ได้ด้วยตัวเอง จึงจะเป็นทางแก้ไขปัญหาในระยาวที่ดีที่สุด
เพราะถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่มีความแน่ชัด 100% ว่าการบริโภคสารเหล่านี้บ่อยๆ
จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวหรือไม่ แต่ทางที่ดี ก็ควรจำกัดหรือหลีกเลี่ยงให้น้อยที่สุดจะดีกว่า
เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมในร่างกาย ซึ่งไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน
แต่หากต้องการรับประทานของหวานจริงๆ
เพราะอดใจไม่ไหว หรือยังหักดิบไม่ได้ ก็ควรเลือกผสมด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
อย่างเช่น น้ำผึ้ง หรือหญ้าหวานแทน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยกว่าค่ะ
(อ่านเพิ่มเติม: ระหว่างลดความอ้วน รู้สึกอยากกินขนมตลอดเวลา จะทำยังไงดี / วิธีกินผักให้อร่อย สำหรับคนที่ไม่ชอบกินผัก / ลดความอ้วนอยู่ แต่ติดของหวานและขนมหวานต่างๆ จะทำยังไงดี)