สำหรับคนที่กำลังลดความอ้วน หรือพยายามควบคุมน้ำหนักอยู่ เครื่องชั่งน้ำหนัก ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ที่จะช่วยให้การประเมินผลสำเร็จของการลดความอ้วน ว่าทำได้ดีมากน้อยแค่ไหน
เครื่องชั่งน้ำหนักที่วางขายในปัจจุบันนั้น มีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ แบบเข็ม และแบบดิจิตอล
หากต้องการจะซื้อนั้น ควรเลือกซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล ซึ่งแสดงผลเป็นตัวเลขและจุดทศนิยม
ในบางเครื่อง ยังสามารถบอกได้ถึงมวลไขมันได้อีกต่างหาก
ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ถึงกับแม่นยำแบบ 100% ก็ตามที
ในขณะที่เครื่องชั่งแบบเข็ม จะมีโอกาสคลาดเคลื่อนได้มากกว่า
ส่วนการจะเลือกเครื่องชั่งน้ำหนัก ควรจะเลือกอย่างไรนั้น ก็มีเทคนิคการเลือกดังนี้ค่ะ
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องชั่งน้ำหนัก
ยี่ห้อ/แบรนด์
ควรเลือกยี่ห้อ หรือแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับหนึ่ง
พยายามหลีกเลี่ยงการซื้อยี่ห้อที่แปลกๆ ไม่คุ้นหู หรือมาจากแหล่งที่ไม่แน่นอน
วัสดุ
ตรวจดูว่ามีความทนทาน และรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหน
และมีโอกาสที่จะแตกหักเสียหายได้ง่ายหรือไม่
ราคา
ตาชั่งที่มีคุณภาพจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็จะได้มาตรฐานในการใช้งาน
และอายุการใช้งานมากกว่าเครื่องชั่งที่มีราคาถูก
การรับประกันสินค้า
ให้ดูว่ามีใบรับประกันหรือไม่ รับประกันในเรื่องใดบ้าง
และไม่รับประกันในเรื่องใด ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนที่จะจ่ายเงินซื้อ
และก่อนที่จะซื้อ ถ้าทำได้ ควรทดลองชั่งน้ำหนักดูก่อน
โดยมีเทคนิคง่ายๆ คือ นำเครื่องชั่งเขย่าเบาๆ 1 ครั้ง แล้วลองชั่งน้ำหนัก
จากนั้น ก็ลองเปลี่ยนไปช่างห่างจากที่เดิมเล็กน้อย เขย่าเครื่องชั่งอีก 1 ครั้ง
แล้วดูว่าน้ำหนักที่ชั่งนั้นตรงกันหรือไม่ ถ้าหากว่าตรงกันก็ซื้อได้เลย
แต่ถ้าหากว่าไม่ตรง ก็ลองชั่งใหม่อีก 1-2 รอบ หากตัวเลขยังเปลี่ยนไปมา ก็ควรลองมองหาเครื่องอื่นแทน
สำหรับการชั่งน้ำหนักที่ถูกต้องนั้น
ไม่จำเป็นต้องชั่งบ่อยจนเกินไป ให้ชั่งเพียงชั่งสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือเดือนละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว
และควรต้องชั่งบนเครื่องชั่งเดิมทุกครั้ง เพราะตามปรกติ น้ำหนักคนเรา จะผันผวนอยู่ทุกวัน
หากชั่งบ่อยๆ แล้วเห็นน้ำหนักไม่ลด ก็อาจจะทำให้เสียกำลังใจเปล่าๆ ได้ค่ะ
(อ่านเพิ่มเติม: เล่นฮูลาฮูปลดความอ้วนได้จริงหรือ / สมุนไพรลดความอ้วน มีสมุนไพรอะไรที่ช่วยลดน้ำหนักได้บ้าง / เคล็ดลับช่วยไม่ให้กินเยอะเกินไป สำหรับคนลดความอ้วน)