ในปัจจุบัน สภาพแวดล้อมของโลกเราได้เปลี่ยนไปอย่างมาก สภาพอากาศมีความแปรปรวน รวมไปถึงสภาวะความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว ความร้อนและรังสียูวีที่มากระทบกับผิวหนังของเรานั้น ก็เพิ่มมากขึ้น แปรผกผันตามการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศหรือชั้นโอโซนของโลกที่ลดลง
ซึ่งรังสียูวีนี้ เป็นอันตรายต่อสภาพผิวของเราเป็นอย่างยิ่ง
จากในอดีตที่เราอาจจะไม่ค่อยใส่ใจกับการทาครีมกันแดด
แต่ในปัจจุบัน ครีมกันแดดกำลังจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นอย่างมาก หากต้องเดินทางออกกลางแจ้งที่มีแสงแดดแรงๆ
ครีมกันแดด
เป็นครีมที่ช่วยในการป้องกันแสงแดด และรังสีที่เป็นอันตรายที่มาจากดวงอาทิตย์
ไม่ให้มากระทบโดนผิวหนังของเราโดยตรง
โดยเฉพาะผิวหน้า ซึ่งเป็นส่วนที่บอบบาง อาจจะเกิดการไหม้ขึ้นมาได้ง่าย
และยังเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า หรือกระบนผิวหน้า เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
หน้าที่ของครีมกันแดดนั้นก็คือ
เป็นฉนวนที่คอยสะท้อนรังสีที่เข้ามากระทบผิวหนัง และดูดซับรังสีนั้น ให้มาสัมผัสผิวหนังของเราให้น้อยที่สุด
ครีมกันแดดส่วนมาก จะมีส่วนผสมของ ไททาเนียมไดออกไซด์ และซิงค์ออกไซด์ ในการป้องกันรังสี UV โดยวิธีการสะท้อน
ส่วนการดูดซับรังสีนั้น โดยส่วนมากจะเป็น 2-Ethylhexyl methoxycinamate และ Butylmethoxydibenzoylmethane เป็นต้น
การเลือกใช้ครีมกันแดดในปัจจุบัน
เราควรทำความรู้จักกับค่า SPF และค่า PA เสียก่อน เพื่อจะได้เลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
โดยทั่วไปแล้ว SPF ที่ระบุอยู่บนครีมกันแดดนั้น
ก็คือเป็นค่าที่ใช้ในการป้องกันรังสีประเภท UVB
อย่างเช่น SPF20 หมายถึงค่าการป้องกันรังสี UVB ได้ 20 เท่า แต่ส่วนมากแล้วคนทั่วไปควรจะใช้ค่า SPF ที่ 15 ก็ถือได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งาน นอกจากผู้ที่มีผิวแพ้แดดง่าย ก็อาจจะใช้ที่ SPF30 ก็ได้เช่นเดียวกัน
เพราะค่า SPF15 นั้น สามารถที่จะปกป้องผิวหนังของเรา จากรังสี UVB ได้สูงถึง 94% และเมื่อใช้ SPF ที่สูงขึ้นไปกว่านี้ ปริมาณการป้องกันก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เมื่อเทียบกับค่าที่แนะนำไป
ส่วนค่า PA นั้น หมายถึงค่าที่ใช้วัดการป้องกันจากรังสี UVA
โดยส่วนมากแล้ว ค่านี้จะมีด้วยกัน 3 ระดับ โดยใช้เครื่องหมายบวกเป็นตัวแสดงสัญลักษณ์ แต่ยังไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนในการป้องกันรังสี UVA โดยจะแสดงค่าออกเป็น PA+ , PA++ และ PA+++
การทาครีมกันแดดนั้น
หากต้องการให้การป้องกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรทาทุก 2-3 ชม. จะช่วยให้ผิวหนังของเราได้รับการป้องกันที่ดีขึ้น
และควรเลือกซื้อครีมกันแดดตามสภาพการใช้งาน เช่น
หากเป็นผู้ที่ต้องเล่นกีฬากลางแจ้ง ที่มีการเสียเหงื่อ หรือนักกีฬาว่ายน้ำ ก็ควรที่จะเลือกใช้ครีมกันแดด ที่มีการป้องกันน้ำอยู่ในตัวด้วย เพื่อป้องกันการถูกชะล้างออกระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ นั่นเองค่ะ
ส่วนในการล้างทำความสะอาดครีมกันแดด
ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ makeup remover ในการเช็ดล้าง เหมือนเครื่องสำอางทั่วๆ ไป
และสิ่งที่ต้องเน้นย้ำก็คือ
การทาครีมกันแดด เป็นเพียงการช่วยเสริมเกราะป้องกันอันตรายจากแสงแดด เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้น เราจึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดแรงๆ โดยตรง รวมทั้งความร้อนที่เป็นอันตรายด้วยอีกทางหนึ่งเช่นกัน
เช่น การสวมหมวก หรือการใช้ร่มกันยูวี เมื่อต้องออกแดดหรืออยู่กลางแจ้ง เป็นต้น
(อ่านเพิ่มเติม: วิธีฟื้นฟูผิว จากการถูกแดดเผา / วิธีเลือกกันแดดให้เหมาะสมกับการใช้งาน / สูตรมาส์กหน้าด้วยนม รักษาผิวไหม้แดด เพื่อหน้านุ่มเนียน)